เพราะความงามเป็นเรื่องที่หยุดไม่ได้ แต่การดูแลความงามของผู้คน (โดยเฉพาะผู้หญิง) จากแต่ละมุมโลกก็มีความเชื่อและรูปแบบที่ต่างกัน โดยเฉพาะวิธีการรักษาความงามของชาวเอเชีย ล้วนเป็นวิธีที่น่าทึ่ง จะว่าแปลกก็ไม่เชิง เพราะหากพิจารณาในรายละเอียดลงไปแล้ววิธีการเหล่านี้กลับมีต้นตอมาจากแนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์อยู่ด้วยเหมือนกัน และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ชาวตะวันตกเห็นว่าเป็นวิธีดูแลสุขภาพความงามของชาวเอเชียที่แสนจะแปลก แต่ก็มีหลายคนอยากลองทำอยู่บ้างเช่นกัน
- การทาขี้นกบนใบหน้า
การรักษาความงามด้วย “ขี้นก” (Bird Poop) สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในอดีตเกอิชาจะใช้ขี้นกเป็นเครื่องมือในการดูแลความงามของพวกเธอมาตั้งแต่โบราณ และวิธีการนี้ก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในสปาของชาวญี่ปุ่นทั่วโลก จริงๆ แล้ว ส่วนประกอบหลักของมันคือสิ่งที่เรียกว่า uguisu no fun (鶯の糞) หรือ “อุจจาระนกไนติงเกล” ซึ่งชาวญี่ปุ่นนำมาผสมในเครื่องสำอาง เพราะเชื่อว่ามันมีคุณสมบัติในการรักษาผิวและรักษาความชุ่มชื้นโดยลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนังชั้นนอก นอกจากนี้มันยังช่วยให้เผิวขาวและรักษาสมดุลสีผิวรวมทั้งรักษาผิวที่ได้รับผลกระทบจากรอยดำเช่นในกรณีที่เกิดสิวหรือความเสียหายจากแสงแดดอีกด้วย
- อาบน้ำสปาเบียร์
ที่โรงเรียน Star World Hotel ในกรุงปักกิ่ง มีสปาหรูแห่งหนึ่งที่จะทำให้คุณสามารถนั่งแช่ในอ่างเบียร์ที่มีส่วนผสมต่างๆ เช่น ยีสต์มอลต์และฮ็อพเป็นเวลา 20 นาที ในอ่างจะเต็มไปด้วยฟองเบียร์นุ่มๆ เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าเบียร์มีค่า pH ที่ต่ำ ดังนั้น จึงสามารถช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียน กระชับรูขุมขน แถมยังมีวิตามินและสารอาหารต่างๆ จากยีสต์ ที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ซึ่งในสปาหรูแห่งนี้จะยังมีบริการนวดและขัดผิวให้หลังจากที่เสร็จจากแช่ถังเบียร์อีกด้วย
- นวดงู
ที่กรุงจาการ์ต้า มีสปาที่เปิดให้บริการนวดด้วยงู โดยเจ้าของสปาบอกว่าคุณสมบัติของการให้งูนวดให้นั้นจะช่วยลดความเครียด และบรรเทาความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงคุ้มค่าต่อการจ่ายเงินเข้าไปนวดเลยทีเดียว แต่ที่จริงแล้ว ต้นกำเนิดของการนวดงูนั้นไม่ได้มีกำเนิดจากความคิดของชาวเอเชีย แต่เจ้าของสปางูในประเทศอินโดนีเซีย ได้รับคำแนะนำจากชาวอิสราเอลมาอีกทีหนึ่ง ดังนั้นถ้าคุณอยากผ่อนคลายความเครียด และมีความกล้าหาญก็สามารถโทรนัดเพื่อเข้าไปให้เหล่าบรรดางูตัวใหญ่ นวดบำบัดให้ได้เลย
- มีดนวด
ที่กรุงไทเป ไต้หวัน ก็มีสปาที่มีรูปแบบการให้บริการไม่เหมือนใครเช่นกัน เพราะที่นั่นมีการใช้มีดใหญ่น้อยมาเป็นเครื่องมือในการนวดผ่อนคลายให้คุณ หากมองเผินๆ อาจจะเข้าใจว่าเป็นการนำอุตสาหกรรมยุคสมัยใหม่มาใช้ดัดแปลงเรื่องสุขภาพ แต่จริงๆ แล้วมีข้อมูลว่าการบำบัดแบบนี้มีอายุมากกว่า 2,000 ปีมาแล้วในประเทศจีน ซึ่งเป็นวิธีที่นักบวชชาวจีนใช้เป็นทางเลือกในการรักษาอาการเครียด และเรียกคืนความสมดุลระหว่างจิตใจร่างกายและจิตวิญญาณ แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีวีการนวดแบบนี้ในจีนแล้ว แต่ในไต้หวันยังมีอยู่ และยังได้รับความนิยมอย่างมากในไทเปซะด้วย
- หอยทากบนใบหน้า
ย้อนกลับมาที่กรุงโตเกียวอีก แต่สปานี้คือการใช้หอยทากมาเดินไต่บนใบหน้าแบบตัวเป็นๆ เพราะเป็นที่ทราบกันแล้วว่าเมือกที่ผลิตโดยหอยทากมีโปรตีนสารต้านอนุมูลอิสระและกรดไฮยาลูโรนิกทำให้เป็นอาหารผิวได้อย่างดี (แม้ว่าจะเป็นอาหารแปลกๆ ก็ตาม) ถ้าหากไปใช้บริการนี้ คุณก็ไม่ต้องทำอะไรเลย สิ่งที่ต้องทำคือพยายามไม่ดิ้นรนแต่ปล่อยให้หอยทากเดินไปตาม ใบหน้าของอย่างอิสระแล้วแต่ใจของพวกมัน และการนำหอยทากพวกนี้มาใช้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นการไปเก็บมาจากริมถนนทั่วไปเพราะพวกมันเป็นหอยทากที่ถูกเลี้ยงขึ้นด้วยอาหาร พืชผักออแกนิก และยังต้องรักษาอุณหภูมิที่อยู่อาศัยไว้ที่ไม่เกิน 20 องศาเซลเซียสอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหอยทากพรีเมี่ยมที่จะทำให้ผิวคุณสวยงาม สะอาดนุ่มนิ่มตามราคาที่ต้องจ่ายกันเลยทีเดียว
- นวดไฟ
การรักษาแบบจีนโบราณอีกอย่างหนึ่งคือการใช้ไฟมาร่วมนวดผ่อนคลาย การนวดแบบนี้มีให้บริการที่สปาทั่วประเทศจีนการรักษาแบบนี้มีความเชื่อว่า มันเป็นการใช้เวลาในมิติทางจิตวิญญาณเนื่องจากผู้ที่จะเข้ามานวดส่วนใหญ่มีจุดมุ่งหมายที่จะฟื้นฟูสมดุลของร่างกายมนุษย์ ฟังดูเหมือนน่ากลัว แต่จริงๆ แล้วก่อนจะนวดด้วยไฟ ผู้นวดจะถูกห่อหุ้มด้วยผ้าพลาสติกและผ้าเช็ดตัว ดังนั้นมันจะไม่ทำให้ผิวไหม้เกรียมแน่นอน
- การขัดผิวด้วยปลา
สปาแบบนี้มีอยู่มากมาย รวมทั้งประเทศไทยเราด้วย หรือที่เรียกว่าการทำสปาเท้า ด้วยการจุ่มเท้าลงในอ่างน้ำที่ปลาตัวเล็กๆ กินได้บนผิวที่ตายของออก มันอาจเป็นการรักษาความงามที่ “ปกติ” ที่สุดในทั้งหมดที่กล่าวมา และบริการแบบนี้ใครๆ หลายคนก็เคยไปใช้บริการมาแล้ว รวมถึงเซเลบ ดาราดัง อย่าง เจสสิก้า ซิมป์สันนักร้องชาวอเมริกันก็เคยไปลองจุ่มเท้าให้ปลาแทะเท้าที่ญี่ปุ่นมาแล้วเช่นกัน
ขอบคุณที่มา
scmp.com/magazines/style/luxury/article/3051769/four-seasons-hoi-anantara-chiang-mai-resort-5-luxury