ในวันที่ทุกวงการธุรกิจต่างกังวล และเร่งปรับตัวให้เท่าทันกระแส Digital Disruption เพื่อไม่ให้ถูกนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลกลืนกินจนให้สูญหายไป เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในภาคการผลิต หรือ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานมนุษย์เท่านั้น หากก็เกิดขึ้นบนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิตอล ออนไลน์ และสตาร์ทอัพด้วย ดังเช่นที่วันนี้ MSN HI5 หรือ แม้กระทั่งแอพพลิเคชั่น Ofo ผู้ให้บริการ bike-sharing หรือ จักรยานเช่ายักษ์ใหญ่ทุนจีนซึ่งเคยเข้ามาทำตลาดในไทยและสิงคโปร์ก็ไม่สามารถฝ่าวิกฤตและต้องจมหายไปกระแสในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายแอพพลิเคชั่นที่ไม่ยอมถูกกลืนและทำการปรับกลยุทธ์สร้างความต่าง เพิ่มทางเลือกให้ตอบโจทย์และดึงดูดใจลูกค้าจนได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งวันนี้กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอยกตัวอย่าง 3 แอพพลิเคชั่นสายบันเทิง Tiktok, Youtube, Spotify อันเป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันสูงมากมาให้ทุกท่านได้ศึกษากัน
TIKTOK แพลตฟอร์มขวัญใจโจ๋โลกตะวันตก และ ตะวันออก
TikTok หรือ Douyin (เตาอิน) ในประเทศจีน แอพพลิเคชั่นแชร์คลิปวิดีโอสั้น 15 วินาที ที่เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กขวัญใจเด็กรุ่นใหม่ของบริษัทไบท์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งขึ้นแท่นยูนิคอร์นสตาร์ทอัพเบอร์ 1 ของโลกด้วยมูลค่ากว่า 75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในจีนเมื่อปี 2559 เท่านั้น ปัจจุบันสามารถทำตลาดถึง 150 ประเทศ 75 ภาษามีผู้ใช้เดือนละประมาณ 500 ล้านคน
นักการตลาดวิเคราะห์ว่า เหตุที่ Tiktok ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เพราะตรงใจวัยรุ่นยุคใหม่ที่ต้องการสร้างตัวตนและนำเสนอคอนเทนต์เก๋ๆ บนโลกโซเชียล โดยช่วงแรกได้รับความนิยมอย่างสูงในจีน ก่อนขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงข้ามจากซีกโลกตะวันออกไปตีตลาดยังสหรัฐอเมริกา
กลยุทธ์ขั้นแรก คือการเข้าซื้อกิจการของมิวสิคัลลี (Musical.ly) แอพพลิเคชั่นวิดีโอลิปซิงค์ชื่อดังในปี 2560 รวมถึงใช้อินฟลูเอนเซอร์ หรือ ดาราดัง เช่น Jimmy Fallon, Kardashians, Rita Ora รวมถึง Tony Hawk ที่โพสต์แสดงเทคนิคการเล่นสเก็ตมาช่วยโปรโมตจนติดตลาดทั้งในสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับอีกหลายๆ ประเทศรวมถึงไทยที่วันนี้กำลังแพร่หลายในหมู่คนดังและกลุ่มวัยรุ่น
รายงานของ influencer marketing agency Mediakix พบว่า 60% ของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่อายุ 16 ถึง 24 ปี ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มเป้าหมายอยู่ในช่วงวัยนี้จึงสนใจมาลงโฆษณาใน Tiktok มากขึ้น
Youtube เปิดตัวบริการใหม่
ดูหนัง ฟังเพลง ซีรีย์ แบบไร้โฆษณาได้ทุกเวลา
แอพพลิเคชั่นยอดฮิตที่ทุกท่านคงคุ้นกันอย่างดี ได้เปิดให้บริการใหม่ YouTube Premium ที่จะมาช่วยทลายข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างจากการใช้งานทั่วไป ซึ่งแบ่งย่อยรูปแบบบริการเป็น 3 ประเภท
- YouTube Premium ที่จะทำให้โฆษณาระหว่างเล่นวิดีโอหายไป และเปิดเล่น YouTube ไปพร้อมๆ กับใช้แอปอื่น หรือ ล็อคหน้าจอได้ รวมถึงดาวน์โหลดวิดีโอเอาไว้ดูแบบออฟไลน์ที่เลือกความคมชัดได้ เป็นต้น
- YouTube Music รวบรวมมิวสิกวิดีโอมาจัดเป็น Playlist ให้เลือกรับชม รับฟังตามที่ชอบ
- YouTube Originals เป็นช่องทางรับชมภาพนตร์ ซีรีย์ของ Youtube เองคล้าย Netflix
เรียกได้ว่าวันนี้ Youtube ก็มีการปรับตัวด้านการให้บริการที่หลากหลายขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าลักษณะเดียวกับ Netflix, Joox รวมถึง Spotify ไปได้พร้อมกัน
Spotify รู้ใจรู้ทัน อยากฟังเพลงไหนจัดได้หมด
แม้ปัจจุบันจะมีผู้ให้บริการฟังเพลงออนไลน์จำนวนมาก แต่ Spotify แอพพลิเคชั่นฟังเพลงชื่อดังที่มีฐานข้อมูลเพลงจากหลากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงเพลงหายาก เพลงแนวแปลกๆ เช่น เพลงญี่ปุ่นนอกกระแส เพลงแนว EDM แนว Post-Rock รวมกว่า 30 ล้านเพลงยังคงยืนหนึ่งในวันนี้
ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการกว่า 60 ประเทศรวม 140 ล้านคน โดยจำนวนนี้เป็นสมาชิกแบบจ่ายเงินถึง 60 ล้านคน ซึ่งทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง Apple Music และ JOOX มีผู้ใช้งานทั้งหมดเพียง 27 และ 22 ล้านคนแบบไม่เห็นฝุ่น
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Spotify ก้าวขึ้นมาในจุดนี้ได้ ก็เพราะนำ A.I. หรือ Artificial Intelligence เข้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ฟังรายบุคคล เพื่อสังเกตพฤติกรรมของเรา นำไปสร้าง playlist แบบ personalized หรือ อัลบั้มของเราคนเดียว เรียกได้ว่า อันลิมิเตดมากๆ ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้ชนะใจผู้ใช้บริการทั่วโลก และยังไม่มีใครล้มได้