“อินทผลัม” ฮีโร่ของผลไม้ สรรพคุณล้านเจ็ดสิบเอ็ดแสน

0
4
kinyupen

อินทผลัม ถูกพูดถึงขึ้นมาอีกครั้งในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมไทยที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ตอบโจทย์ภาวะฉุกเฉินได้จริง จากคุณสมบัติด้านโภชนาการสาธารณสุข และความสะดวกในการบริโภค หากอยากรู้ว่า ทำไมอินทผลัม ถึงได้เป็นหนึ่งในไอเท็มเด็ดช่วงขาดแคลนอาหาร ร่างกายอ่อนเพลีย หรือร่างกายขาดน้ำ ตามกินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต มาอ่านสรรพคุณล้านเจ็ดสิบเอ็ดแสนไปพร้อมๆ กัน

เหตุใดอินทผลัมจึงถูกมองว่าเป็น “ตอบโจทย์” ในสถานการณ์น้ำท่วม/หรือช่วงการถือศีลอดของชาวมุสลิม

ให้พลังงานรวดเร็ว แก้อ่อนเพลียเฉียบพลัน

อินทผลัมประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตประมาณ 70–80% โดยเป็นน้ำตาลธรรมชาติที่ดูดซึมเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นทันทีหลังรับประทาน ผู้ที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม มักเผชิญปัญหากินไม่เป็นเวลา ใช้แรงกายมาก หรือเกิดอาการหน้ามืดจากน้ำตาลต่ำ อินทผลัมจึงช่วยบรรเทาอาการอ่อนแรงได้ในไม่กี่นาที

เก็บง่าย ไม่เน่าเสียง่าย แม้ไม่มีไฟฟ้า

ข้อจำกัดสำคัญในเขตน้ำท่วมคือการขาดพื้นที่เก็บรักษาอาหารแห้งและการไม่มีไฟฟ้า อินทผลัมมีความชื้นต่ำ ไม่ต้องแช่เย็น และไม่เสียง่ายแม้เก็บในอุณหภูมิสูง จึงพกพาสะดวก กระจายต่อให้หลายครัวเรือนง่ายกว่าอาหารสดทั่วไป

โพแทสเซียม–แมกนีเซียมสูง ช่วยระบบกล้ามเนื้อและหัวใจ

ข้อมูลโภชนาการระบุว่าอินทผลัมมีโพแทสเซียมในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่ากล้วยบางสายพันธุ์ ซึ่งช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจและลดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงการเป็นตะคริวในผู้ที่ใช้แรงต่อเนื่องระหว่างย้ายของหรือเดินลุยน้ำหลายชั่วโมง

ไฟเบอร์ช่วยการขับถ่ายในช่วงที่ดื่มน้ำน้อย

ผู้ประสบภัยมักมีอาการท้องผูกจากการดื่มน้ำน้อยและรับประทานอาหารสำเร็จรูป อินทผลัมมีไฟเบอร์สูง ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ลดไม่สบายท้องที่รบกวนร่างกายระหว่างสถานการณ์วิกฤต

หวานแต่มีสารอาหารจริง ไม่ใช่น้ำตาลล้วน

ความหวานของอินทผลัมช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายชั่วคราวในภาวะเครียด แต่ข้อสำคัญคือมันให้แร่ธาตุและวิตามินหลายชนิด ไม่ใช่แค่พลังงานจากน้ำตาลแบบลูกอม จึงเหมาะกว่าเป็นอาหารช่วยชีวิตระยะสั้นในภาคสนาม

กินสะดวกในพื้นที่เสี่ยง

อินทผลัมไม่ต้องล้าง ไม่ต้องปรุง และหยิบกินได้ทันที ลดความเสี่ยงการปนเปื้อนจากน้ำท่วมที่สกปรก เป็นปัจจัยที่ทำให้หน่วยกู้ภัยมักเลือกใส่ไว้ในชุดยังชีพที่แจกในพื้นที่วิกฤต

ข้อควรระวัง

* ผู้ป่วยเบาหวานสามารถรับประทานได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณ (1–2 เม็ดต่อครั้ง)

* ผู้มีปัญหาโรคไตระยะท้ายควรระวังโพแทสเซียมสูง

* ไม่ควรใช้ทดแทนอาหารหลักในระยะยาว เพราะเป็นอาหารพลังงานสูงแต่โปรตีนต่ำ

.

ที่มา :  amarintv

ข้อมูล : กรมส่งเสริมการเกษตร/ ชัวร์ก่อนแชร์ Sure And Share/ hdmall.co.th

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here