10 อันดับวีซ่า Digital Nomad ที่ดีที่สุดในโลกปี 2025

0
4
kinyupen

เคยฝันไหมว่าได้นั่งจิบกาแฟในคาเฟ่ที่ลิสบอน ตอบอีเมลริมชายหาดในสเปน หรือประชุมออนไลน์ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิกของยุโรป? สำหรับคนยุคใหม่ ความฝันนี้กำลังกลายเป็นความจริงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ด้วยเทรนด์การทำงานแบบ “Digital Nomad” ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดทั่วโลก และล่าสุด Global Citizen Solutions ได้เผยผลการจัดอันดับวีซ่า Digital Nomad ที่ดีที่สุดประจำปี 2025 ออกมาแล้ว

หลังยุคโควิด-19 วัฒนธรรมการทำงานทางไกล (Remote Work) ได้เปิดประตูให้ผู้คนนับล้านออกไปแสวงหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าและประสบการณ์ใหม่ๆ ในต่างแดน รัฐบาลกว่า 64 ประเทศทั่วโลกต่างเล็งเห็นโอกาสนี้และออกวีซ่า Digital Nomad เพื่อดึงดูดแรงงานทักษะสูงจากทั่วโลก แต่คำถามคือ… ประเทศไหนล่ะคือจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดสำหรับคุณ?

รายงานฉบับใหม่นี้ได้วิเคราะห์ปัจจัยสำคัญรอบด้าน ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร ความมั่นคงด้านภาษี ค่าครองชีพ ไปจนถึงคุณภาพชีวิตและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อจัดทำดัชนีชี้วัดที่สมบูรณ์ที่สุด

ภาพรวมวีซ่า Digital Nomad ไม่ใช่แค่เรื่องเที่ยว แต่คือการใช้ชีวิต

แม้จะมีวีซ่าให้เลือกมากมาย แต่ส่วนใหญ่ (66%) มอบสิทธิ์พำนักเบื้องต้น 1 ปี และมีเพียงไม่กี่ประเทศ เช่น สเปน กรีซ หรือสาธารณรัฐเช็ก ที่มีเส้นทางสู่การเป็นพลเมืองถาวรได้ ขณะที่เรื่องภาษีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา บางประเทศเสนอเงื่อนไขปลอดภาษีเพื่อดึงดูดใจโดยเฉพาะ

10 อันดับวีซ่า Digital Nomad ที่ดีที่สุดในโลกปี 2025 (โดยรวม)

  • สเปน (Spain): ครองอันดับหนึ่งด้วยคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม วัฒนธรรมที่หลากหลาย และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่วีซ่านี้สามารถนำไปสู่การขอสัญชาติได้
  • เนเธอร์แลนด์ (Netherlands): โดดเด่นด้านคุณภาพชีวิตและนวัตกรรม เป็นประเทศที่สมดุลทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต
  • อุรุกวัย (Uruguay) : ตัวเลือกที่น่าสนใจจากอเมริกาใต้ มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมสูง
  • แคนาดา (Canada) : ขั้นตอนการสมัครที่ไม่ซับซ้อนและสังคมที่เปิดกว้าง ทำให้แคนาดาเป็นที่นิยมเสมอมา
  • สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) : เสน่ห์ของยุโรปกลางในราคาสบายกระเป๋า พร้อมโอกาสในการตั้งถิ่นฐานระยะยาว
  • โปรตุเกส (Portugal) : ชายหาดสวยงาม ค่าครองชีพไม่สูง และชุมชน Digital Nomad ที่แข็งแกร่ง
  • ฝรั่งเศส (France) : แม้จะไม่มีวีซ่าชื่อ Digital Nomad โดยตรง แต่วีซ่าพำนักระยะยาวก็ตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) : สวรรค์ของคนไม่อยากเสียภาษี! พร้อมโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก
  • เยอรมนี (Germany) : มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของยุโรปที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต
  • มอลตา (Malta) : เกาะสวรรค์ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษีและอากาศดีตลอดปี

จัดอันดับตามสไตล์ เลือกประเทศที่ “ใช่” สำหรับคุณ

  • สายชิล เน้นคุณภาพชีวิต (Quality of Life): กลุ่มประเทศยุโรปครองแชมป์ นำโดย เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, และไอซ์แลนด์
  • สายเทค เน็ตต้องแรง (Technology & Innovation): ฝรั่งเศส คว้าอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยไอซ์แลนด์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (และข่าวดี! ประเทศไทย 🇹🇭 ก็ติด Top 10 ในหมวดนี้ด้วย!)
  • สายประหยัด คุมงบ (Best Economics): อินเดีย, เอกวาดอร์, และมาเลเซีย คือสามอันดับแรกที่ค่าครองชีพเป็นมิตรที่สุด
  • สายภาษีดีงาม (Excellent Tax Benefits): สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ยืนหนึ่ง ตามมาด้วยกลุ่มประเทศแถบแคริบเบียนอย่างเซเชลส์, บาฮามาส, และเซนต์ลูเซีย
  • สายปักหลักระยะยาว (Citizenship & Mobility): สเปน, สาธารณรัฐเช็ก, และกรีซ คือประเทศที่มีเส้นทางสู่การเป็นพลเมืองชัดเจนที่สุด

ปรากฏการณ์ Digital Nomad ไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราวอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ดร. ลอรา มาดริด ซาร์โตเร็ตโต หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Global Citizen Solutions กล่าวทิ้งท้ายว่า “นี่คือการเปลี่ยนแปลงจากไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มเล็กๆ สู่กระแสหลักทางเศรษฐกิจ”

ข้อมูล : Forbes / thairath

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here