เมื่อ SUBARU-SUZUKI หยุดสายพานการผลิตในไทย

0
88
kinyupen

Key Highlights

  • ในช่วงเดือนที่ผ่านมา วงการยานยนต์ไทยมีเรื่องน่าตกใจอยู่ไม่น้อย หลัง Subaru และ Suzuki ได้ประกาศหยุดสายการผลิตในไทย โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 1) “การทำตลาดที่ยากขึ้น” ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมรถ EV แทน ICE ซึ่งนำมาสู่ 2) “ปัญหาการขาดทุนสะสมต่อเนื่อง” สะท้อนจากใน 5 ปีหลังสุดที่มีผลขาดทุนสุทธิสะสมรวมกันราว 3.8 พันล้านบาท
  • ในเบื้องต้น Krungthai COMPASS คาดว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ไทยปรับลดลงราว 6,500 คันในปี 2568 จากคาดการณ์เดิม 1,800,000 คัน เหลือ 1,793,500 คัน อย่างไรก็ดี นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนแรกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ และต้องจับตาต่อไปว่าจะมีค่ายรถยนต์รายอื่นๆ ต้องหยุดสายการผลิตซ้ำรอยกับ Subaru และ Suzuki อีกหรือไม่
  • ดีลเลอร์ของ Subaru และ Suzuki ควรพิจารณาแนวทางการดำเนินธุรกิจทั้งการเป็นผู้จำหน่ายให้ทั้ง 2 ค่ายรถยนต์ต่อไป หรือจะ Diversify ปรับตัวไปเป็นผู้จัดจำหน่ายให้ค่ายอื่นๆ เต็นท์รถมือ 2 มีความเสี่ยงที่อาจต้องปรับลดราคาขาย Subaru และ Suzuki ลงตามราคามือ 1 ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงใน  กรอบ -1.4% ถึง -0.4% หากเต็นท์รถรายใดไม่สามารถปรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ลดลงตามกำไรขั้นต้นที่หายไปก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาขาดทุนได้


ในช่วงเดือนที่ผ่านมา วงการยานยนต์ไทยมีเรื่องให้น่าตกใจอยู่ไม่น้อย จากการประกาศหยุดสายการผลิตในไทยของ 2 ค่ายรถยนต์ Subaru และ Suzuki

เริ่มต้นเมื่อ 29 พ.ค. 2567 บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ Subaru ได้เปิดเผยว่าจะหยุดสายการผลิตโรงงานในไทยสิ้นปี 2567 เนื่องจากบริษัทต้องเผชิญกับปัญหาสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เปลี่ยนไป ทำให้รถยนต์ที่ผลิตออกมาไม่สามารถขายได้ในราคาที่เหมาะสม จึงเลือกที่จะปรับแผนไปนำเข้ารถจากญี่ปุ่นแบบทั้งคัน (CBU) เป็นการทดแทน

ผ่านไปสัปดาห์นิดๆ ก็มีข่าวสะเทือนอีกครั้ง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2567 บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้เปิดเผยว่าจะหยุดสายการผลิตที่โรงงานไทยช่วงสิ้นปี 2568 โดย Suzuki จะนำเข้ารถยนต์จากอาเซียน ญี่ปุ่น อินเดีย มาทำตลาดในไทยแทน และยืนยันจะให้บริการหลังการขายต่อไป

วีระยา ทองเสือ / กณิศ อ่ำสกุล

Krungthai COMPASS

kinyupen

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here