“ใจดี สู้เสือ” : เสือร้ายตัวที่ 1 “โรคระบาด” อย่าประมาทและอย่าวิตกจนหมดสุข

0
577
kinyupen

“ไวรัสโควิด-19” ไม่ได้เป็นวิกฤตโรคระบาดที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรกในบ้านเรา แต่เราเผชิญมาแล้วหลายครั้งและรับมือได้เป็นอย่างดี โดยช่วงปลายปี พ.ศ.2546 ประเทศไทยเริ่มพบการระบาดของไข้หวัดนก (ไวรัส H5N1) ก่อนลุกลามทั่วประเทศกินเวลากว่า 3 ปีมีผู้เสียชีวิต 17 ราย ไก่ตาย 160-200 ล้านตัว คนตื่นกลัวไม่กล้า “กินไก่” รัฐบาลจึงแต่งตั้งคณะทำงานชุดต่างๆ เพื่อควบคุมและป้องกันโรคไข้หวัดนก เร่งปฏิบัติงานเชิงวิชาการ ภาคสนาม ตลอดจนกิจกรรมเชิงจิตวิทยากระตุ้นความเชื่อมั่นประชาชน ในที่สุดด้วยความร่วมมือของคนทั้งประเทศก็สามารถตัดตอนห่วงโซ่ไวรัสจากไก่สู่คนจนพ้นวิกฤตและได้รับคำชมเชยจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปการควบคุมโรคในสัตว์ครั้งสำคัญของประเทศด้วย

 

ต่อมาในปี พ.ศ.2552  ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ A 2009 (ไวรัส H1N1) ระบาดทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ราย (สูงกว่าโควิด-19 มาก) ภาครัฐเร่งสกัดด้วยมาตรการตรวจคัดกรองผู้มาจากพื้นที่เสี่ยง จัดหาวัคซีนป้องกันโรคมาฉีดให้ประชาชน รวมถึงรณรงค์ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไอเพื่อลดการแพร่ระบาดที่ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวและตระหนักของคนไทยอย่างมากจนสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

 

 

สำหรับไวรัสโควิด–19 ที่กำลังระบาดลุกลามสร้างความอกสั่นขวัญแขวนทั่วโลกรวมถึงไทย ทั้งถูกผสมโรงจาก Fake news ที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้หลายคนวิตกกังวลจนใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง ขอแนะนำว่าควรยึดหลักกาลามสูตรให้มั่นอย่าเชื่อแหล่งข่าวใดที่ขาดการกลั่นกรอง หรือ ขาดการพิสูจน์แน่ชัดเพื่อรับมือได้ถูกทาง ทั้งอย่าประมาทควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ เฝ้าระวังและหลีกเลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หากเลี่ยงไม่ได้ก็อย่าตระหนกจนเกินไป แต่ให้เตรียมการป้องกันด้วยอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน รวมถึงหมั่นรักษาสุขอนามัยขั้นต้นด้วยการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อย่างเคร่งครัดเป็นสำคัญ พร้อมกันนี้ขอนำข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการรับมือวิกฤตมาฝากกัน

 

“..วิถีชีวิตมนุษย์นั้น จะให้มีแต่ความปรกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัย มีอุปสรรค ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น ข้อสำคัญ อยู่ที่ทุกๆ คนจะต้องเตรียมกาย เตรียมใจและเตรียมการไว้ให้พร้อมทุกเวลา เพื่อเผชิญและแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนทั้งนั้นด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยความสามัคคีธรรม จึงจะผ่อนหนักให้เป็นเบา และกลับร้ายให้กลายเป็นดีได้…”

พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2528

 

ขอขอบคุณภาพจาก : สราวุธ อิสรานุวรรธน์ / Facebook : Iamzoof

////////////////////////////////////////////////////////////

kinyupen