กินอยู่อย่าง “ธาตุ”

0
562
kinyupen

การดูแลสุขภาพแบบแพทย์แผนไทย การเรียนรู้เรื่องธาตุเจ้าเรือน มีความสำคัญไม่น้อย สังเกตไหมว่าทำไม้ทำไม เราไม่เหมือนเพื่อนๆ นั่งในห้องแอร์ เปิด 25 องศา เพื่อนเหงื่อแตกได้ แต่ทำไมเราต้องหยิบเสื้อหนาวมาใส่ หรือทำไมเพื่อนทนแดดทนฝน ตากแดดตากฝนไม่เป็นไร แต่ทำไมเราตากแดดแป๊บเดียว ปวดหัวขึ้นมาพาลจะเป็นไข้ เป็นไมเกรน เป็นต้น

 

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตนำข้อมูลดีๆ มาเฉลย ตามหลักธาตุเจ้าเรือนตามศาสตร์แพทย์แผนไทย ให้รู้ว่าร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน เพราะพื้นฐานของธาตุเจ้าเรือนที่แตกต่างกันนั่นเอง มาดูว่าคนที่เกิดในแต่ละธาตุเป็นอย่างไร จะได้รู้จักตัวเอง มีจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง จะกินแบบไหน ถึงจะดีต่อสุขภาพ ต้องประคับประคองระบบไหนของร่างกาย มาดูกัน

 

EP1. ธาตุดิน (คนเกิดเดือนพฤศจิกายน, ธันวาคม, มกราคม)

ลักษณะ

คนธาตุนี้ มีความหนักแน่น มั่นคง รูปร่างสูงใหญ่ กระดูกใหญ่ น้ำหนักตัวมาก ผิวค่อนข้างคล้ำ ผมคิ้วดกดำ หน้าผากกว้าง เสียงดังฟังชัด ใบหน้ากลมรี บุคลิกโดดเด่นสง่างาม

ด้านบวก

สุขุมรอบคอบ มีเป้าหมายในชีวิต เฉลียวฉลาด ทะเยอทะยาน จิตใจหนักแน่น มีมนุษยสัมพันธ์ดี กระตือรือร้น อดทนสูง เอื้อเฟื้อ มีเมตตา รักสงบ

จุดอ่อน

เมื่อไหร่ธาตุนี้เสียสมดุล จะเกิดอาการขัดแย้งในตัวเอง ลังเล ขี้ใจน้อย ดื้อรั้น โกรธเกรี้ยว อารมณ์แรง

ปรับสมดุล

อาหาร ก็คือยา ดังนั้นธาตุดิน ปรับอาการเสียศูนย์ ได้ด้วยอาหารที่มีรสฝาด หวาน มันเค็ม อาทิ มังคุด ฝรั่งดิบ ฟักทอง ถั่วต่างๆ เงาะ น้ำนม น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว เกลือ คนธาตุดินจะมีสุขภาพดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการขับถ่ายเป็นระบบ

 

 

EP.2 ธาตุน้ำ (คนเกิดเดือนสิงหาคม, กันยายน ตุลาคม)

ลักษณะ

นิ่ง เยือกเย็น รูปร่างสมบูรณ์สมส่วน ผิวพรรณใสเต่งตึง ตาเข้มหวาน ท่าทางการเดินมั่นคง ผมดกดำ ทำกิจกรรมเชื่องช้า ทนหิว ทนร้อน ทนเย็นได้ดี เจ้าชู้นิดๆ ช่างเจรจา องอาจ ทระนง

ด้านบวก

มีความจำดี รสนิยมเลิศหรู เป็นนักวางแผนมือฉกาจ ใจกว้าง มีเหตุผล ยุติธรรม มีหัวศิลปะ กระตือรือร้น สู้ชีวิต

จุดอ่อน

เมื่อเสียสมดุลเมื่อไหร่ ธาตุน้ำจะออกอาการเฉื่อยชา เกียจคร้าน ตัดสินใจช้า ไม่ค่อยเด็ดขาด อารมณ์เสียง่าย ใจอ่อน

ปรับสมดุล

กินอาหารช่วยปรับสมดุล เน้นอาหารรสเปรี้ยว อาทิ มะนาว ส้ม สับปะรด มะกรูด มะเขือเทศ ส่วนน้ำสมุนไพรช่วยบำรุงธาตุ ก็ต้องเป็นน้ำมะนาว น้ำส้ม น้ำฝรั่ง และให้หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด

สังเกตให้ดี ชาวธาตุน้ำเสียสมดุลเมื่อไหร่ มักมีปัญหาปวดท้องเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร การขับถ่ายปัสสาวะ น้ำในมดลูก มีเสมหะมาก

 

 

EP.3 ธาตุไฟ (คนเกิดเดือน กุมภาพันธ์, มีนาคม, เมษายน)

ลักษณะ

ตามนั้นเลย คือ ใจร้อน ผิวพรรณไม่ค่อยดี ผมหงอกเร็ว มักมีผมบาง ศีรษะเถิกหน้าผากกว้าง ผมและขนค่อนข้างนิ่ม หิวน้ำบ่อย กินเก่ง กระดูกข้อใหญ่ ใบหน้าเหลี่ยม

ด้านบวก

มีเหตุผล คล่องแคล่ว ไม่เห็นแก่ตัว จิตใจดีมีเมตตา เป็นครูที่ดี โรแมนติก ชอบความสมบูรณ์แบบ มีความสามารถรอบด้าน กล้าหาญ ชอบการตัดสินใจ มั่นใจในตัวเองสูง อบอุ่น

จุดอ่อน

เมื่อไหร่คนธาตุนี้ขาดสมดุล จะกลายเป็นคนอ่อนไหว ขาดความมั่นใจ เข้าใจยาก ความอดทนต่ำ เครียด หงุดหงิด วู่วาม ขี้รำคาญ

ปรับสมดุล

ควรกินอาหารที่มีรสขม จืด เย็น ได้แก่ แตงโม บัวบก ตำลึง ผักบุ้ง หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดร้อน ส่วนน้ำสมุนไพรช่วยบำรุงธาตุ ได้แก่ น้ำใบบัวบก น้ำมะระขี้นก

ตามตำราโบราณระบุว่า คนธาตุไฟจะมีสุขภาพดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ”เลือดกำเดา” ซึ่งเป็นองค์ความร้อนในตัว ควบคุมไฟทั้งหมด

 

 

EP.4 ธาตุลม (คนเกิดเดือน พฤษภาคม, มิถุนายน, กรกฎาคม)

ลักษณะ

อ่อนไหว เปลี่ยนแปลงเสมอ พัดไปพัดมาเหมือนลมตามธาตุเจ้าเรือน มักมีรูปร่างโปร่ง ผมบาง ผิวหนังไม่ค่อยละเอียด ดูอ่อนกว่าวัยเกินจริง ริมฝีปากอิ่ม ช่างพูด เสียงต่ำ ออกเสียงไม่ชัด ดวงตาพองโตสดมีชีวิตชีวา รูปร่างไม่สูงไม่เตี้ย ได้สัดส่วน

ด้านบวก

ไม่หยุดนิ่ง ชอบความสะดวกสบาย เป็นคนฉลาด ไหวพริบดี มีเสน่ห์งดงาม เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ สุขุมเยือกเย็น เข้าใจง่าย เรียนรู้เร็ว แต่ลืมเร็ว ปรับตัวง่าย มีความคิดสร้างสรรค์เป็นศิลปิน

จุดอ่อน

เมื่อไหร่ชาวธาตุลมเสียสมดุล จะเป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยตรงต่อเวลา ขี้หึง โมโหง่าย ไม่กล้าตัดสินใจ อารมณ์ไม่มั่นคง

ปรับสมดุล

ควรกินอาหารที่มีรสเผ็ด และรสสุขุม อาทิ ขิง ข่า ตะไคร้ กระชาย พริกไทยดำโหระพา กะเพรา เตยหอมทั้งนี้ตามศาสตร์โบราณ ระบุไว้ว่าชาวธาตุลม สุขภาพจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับลม อาการเฉียบพลัน อารมณ์ที่ร้อนแรง ความวิตกกังวล อาการปวดหลัง การชัก การกระตุก

เช่นเดียวกับชาวธาตุอื่นๆ ชาวธาตุลม นอกจากอาหารจะช่วยปรับสมดุลได้แล้ว “ธรรมะ” เป็นหนทางของการรักษาสมดุลได้อย่างดี

ชาวธาตุลม และทุกๆ ธาตุ สามารถใช้โอกาสนี้เริ่มต้นสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต

 

ธรรมะสวัสดี

(ข้อมูล: พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ สถาบันการแพทย์แผนไทย, ตำรับอาหารเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย)

kinyupen